รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก จังหวัดนครปฐม
(ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2567)
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในจังหวัดนครปฐม พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยสะสม 808 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 87.65 ต่อประชากรแสนคน และมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย สถิติดังกล่าวส่งผลให้จังหวัดนครปฐมอยู่ในอันดับที่ 35 ของประเทศ และอันดับที่ 4 ของเขตสุขภาพที่ 5 ซึ่งจากข้อมูลพบว่าจำนวนผู้ป่วยในปี 2567 ลดลง 0.34 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2566
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ 3 อำเภอที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอดอนตูม และอำเภอกำแพงแสน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความหนาแน่นของประชากร สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของยุงลาย หรือพฤติกรรมเสี่ยงของประชาชน เช่น การไม่กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หรือการไม่ป้องกันตนเองจากยุงกัด
7 อันดับอำเภอที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด:
- เมืองนครปฐม: 381 ราย (อัตราป่วย 137.13)
- ดอนตูม: 48 ราย (อัตราป่วย 97.57)
- กำแพงแสน: 114 ราย (อัตราป่วย 90.72)
- นครชัยศรี: 73 ราย (อัตราป่วย 65.54)
- สามพราน: 122 ราย (อัตราป่วย 55.82)
- พุทธมณฑล: 23 ราย (อัตราป่วย 51.55)
- บางเลน: 46 ราย (อัตราป่วย 48.61)
สรุป สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในจังหวัดนครปฐมยังคงน่าเป็นห่วง แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีผู้เสียชีวิต การป้องกันโรคไข้เลือดออกจึงมีความสำคัญ
เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนควรตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตนเองจากยุงกัด เช่น การทายากันยุง การนอนในมุ้ง และการสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด นอกจากนี้ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและชุมชนก็เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เช่น การคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง การเปลี่ยนน้ำในแจกันและภาชนะอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ และการทำความสะอาดรางน้ำฝน
หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคไข้เลือดออก การวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและการเสียชีวิตได้